มาวิเคราะห์กันดูครับ ว่าทำไม โครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร ราชพฤกษ์ (Supalai Loft Sathorn-Ratchaphruek ) ถึงกล้าเปิดหลังจากพิษของโควิด-19 ทั้งๆ ที่ Developer เจ้าอื่นๆ ส่วนใหญ่ หยุดการเปิดโครงการใหม่ และเน้นขายโครงการเก่าพร้อมอยู่ แถมยังลดราคาอย่างหนัก มาก
1.ราคาต้นทุน ที่ดินที่ได้มาราคาถูกกว่า เพราะซื้อไว้ในวันที่รู้ว่าจะมี Skywalk แต่ยังไม่สร้าง ในราคาเพียง 141,000 บาท/ตรว. ประมาณ 4 ปีที่แล้ว ที่ดินแปลงนี้ในราคาปัจจุบันน่าจะประมาณ 2 แสนกว่า/ตรว.
2.เมื่อราคาต้นทุนที่ดินได้มาราคาถูกว่าคนอื่น ทำให้สามารถขายโครงการได้ในราคาที่ถูกกว่าคนอื่นใช่กันราคาคอนโดนี้เฉลี่ยตารางเมตรละ 5 หมื่นกว่าบาทเท่านั้นเอง ทั้งที่คอนโดส่วนใหญ่ย่าน บางหว้า ตกอยู่ประมาณ 80,000-100,000 บาท
3.จุดเด่นด้าน Product ศุภาลัยเลือก แบรนด์ ลอฟท์ มาลงที่โครงการนี้ เพราะแบรนด์นี้มี ลักษณะเป็นเอกลักษณ์คือ ห้องกว้าง เพดานสูงถึง 2.7 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น
4.ทำเลโครงการ ถึงแม้จะเดินไกลหน่อย ประมาณ 450-500 เมตร แต่คุณอยู่ใกล้
interchange รถไฟฟ้า 2 สาย ทั้ง BTS และ MRT พร้อมทั้งศุภาลัยได้ปรับปรุงทางเดินให้น่าเดินมากยิ่งขึ้น ในราคาเริ่มต้นที่ ล้านกว่าบาท
5.ยอดการเยี่ยมชมโครงการต่างๆ ของศุภาลัย กลับมา หลังจากที่ เดือนมีนาคม-เมษายน ที่ผ่านมาตลาด Slow Down จากพิษโควิด-19 ช่วงปลายเดือนเมษายน ยอดเริ่มกลับมาดีขึ้น ปัจจุบันยอด Walk กลับมาเป็นปกติแล้ว
6.ธนาคารเริ่มมีการปล่อยกู้ปกติ รวมถึงปล่อยกู้ให้กับอาชีพกลุ่มเสี่ยงแล้ว
7.ความมั่นคงของสถานะทางการเงิน ของ ศุภาลัย เอง
8.ที่สำคัญ เป้าหมาย ที่ตั้งไว้ 30,000 ล้านบาทของบริษัท ที่ต้องพยายามไปให้ถึงแม้มันจะยาก ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้แต่อาจจะยากสักหน่อย (ผมชอบคำนี้ของผู้บริหารมาก)
ผมจะไม่พูดถึงการออกแบบ ดีไซต์ หรือแม้กระทั่งส่วนกลาง ผมมองว่าคอนโดส่วนใหญ่ มีลักษณะคล้ายๆกันมีข้อดี ข้อเสีย แต่ละโครงการต่างกันและความชอบของคนแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันด้วย ตรงนี้ผมมองว่าไม่เป็นปัจจัย
ทั้ง 8 เหตุผลนี้แหละ เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าทำไม โครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร ราชพฤกษ์ ถึงกล้าเปิด…..ที่จริงมีอีกประเด็นหนึ่งเรื่องลองตลาด….แต่ระดับศุภาลัย แล้ว ผมคิดว่าเขาคิดมาดีแล้วแหละไม่น่าจะเป็นการแค่ลองตลาด ^_^
